ผมคิดว่าหลายๆท่านคงไม่ได้อยากที่จะได้ยินคำว่า มรณาหรือตาย เวลาที่เปล่งออกมาเหมือนกับว่าเรากำลังแช่งชักหักกระดูกตนเอง แต่ในความเป็นจริงแล้วชีวิตของเราอยู่ใกล้กับความตายอยู่ทุกขณะ เพียงแต่ว่าจะช้าหรือเร็วเท่านั้น แล้วเหตุอันใดเล่าที่เราจะไม่นำมาเตือนสติตนเองให้เรู้จักทำความดี ทำสิ่งที่อยากทำ ทำหน้าที่ของตนเองให้ดีที่สุด บอกรักกับคนที่เรารัก หรือสิ่งอื่นๆที่เราทำแล้วมีความสุข ทำแล้วเกิดประโยชน์ต่อเพื่อนร่วมโลกของเรา เพราะอันที่จริงแล้วการเจริญมรณสติคือการที่เราไม่ประมาทกับชีวิต เพราะเราไม่สามารถบอกได้ว่าใครๆที่อยู่รอบข้างของเรา หรือแม้แต่ตัวเราจะมีเวลาเท่าไหร่บนโลกนี้ มีแต่สิ่งที่เราทำหรือความดีที่เราทำนั่นคือสิ่งที่จะประดับไว้บนโลกนี้ ส่วนตัวของเราก็จะกลับสู่ธรรมชาติที่ได้ให้กำเนิดเรามา หลายท่านคงรู้จัก สตีฟ จอบส์ พ่อมดแห่งวงการคอมพิวเตอร์ผู้ที่ล่วงลับไปแล้วได้กล่าวว่า
ถ้าเราสามารถใช้เวลาว่าวันนี้คือวันสุดท้ายของชีวิต วันหนึ่งคุณจะสมหวังในสิ่งที่เราปราถนา เมื่อตื่นเช้ามามองกระจก ก็จงถามกับตนเองดูเสียว่า ถ้าวันนี้เป็นวันสุดท้ายในชีวิต เราอยากที่จะทำอะไร และวันนี้เราจะทำอะไร ถ้าหากว่าเราได้คำตอบว่า ไม่อยากที่จะทำอะไรเลยหลายวันติดต่อกัน เราต้องคิดว่าถึงเวลาแล้วหรือไม่ที่เราจะต้องเปลี่ยนแปลงอะไรบางอย่างในชีวิต
นี่คือสิ่งที่พ่อมดแห่งวงการคอมพิวเตอร์ได้คิดไตร่ตรองอยู่ทุกวัน จนถึงทุกวันนี้ชื่อของเขาได้ประทับอยู่บนทุกอณูของวงการคอมพิวเตอร์ แล้วจะไม่หันกลับมามองหรือเจริญมรณสติดูบ้างหรือ เพราะนี่ไม่ใช่การแช่งตนเอง แต่สิ่งนี้อาจเป็นจุดเปลี่ยนที่ทำให้ค้นพบสิ่งที่เราหามาทั้งชีวิตก็ได้ครับ สมดังคำที่ว่าความตายสามารถเปลี่ยนแปลงชีวิต............
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น